การชดเชยค่าภาษีอากร

ความหมายที่สำคัญในการชดเชยค่าภาษีอากร
คำว่า “สินค้า” หมายความว่า สินค้าที่ผลิตในราชอาณาจักร
คำว่า “ผลิต” หมายความว่า ประกอบ แปรรูป แปรสภาพ หรือทำการอย่างใดอย่างหนึ่งให้มีขึ้นซึ่งสินค้าไม่ว่าด้วยวิธีใดๆ
คำว่า “เงินชดเชย” หมายความว่า เงินที่จะจ่ายชดเชยค่าภาษีอากรซึ่งมีอยู่ในต้นทุนการผลิตสินค้าส่งออกให้แก่ ผู้มีสิทธิได้รับเงินชดเชยในรูปของบัตรภาษีตามพระราชบัญญัติชดเชยค่าภาษี อากรสินค้าส่งออกที่ผลิตในราชอาณาจักร พ.ศ. 2524
คำว่า “อัตราเงินชดเชยค่าภาษี อากร” หมายความว่า อัตราเงินชดเชยสำหรับชนิดและประเภทสินค้าที่จะได้รับเงินชดเชยค่าภาษีอากร ตามที่คณะกรรมการพิจารณาชดเชยค่าภาษีอากรสินค้าส่งออกที่ผลิตในราชอาณาจักร ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
คำว่า “การส่งออกสินค้า” หมายความว่า การส่งออกตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร รวมถึงการขายสินค้าภายในประเทศให้แก่ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจตามโครงการ เงินกู้หรือเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศ และการขายสินค้าให้แก่องค์การระหว่างประเทศหรือหน่วยงานที่มีสิทธินำสินค้า เข้ามาในราชอาณาจักรโดยได้รับการยกเว้นอากรตามกฎหมายว่าด้วยพิกัดอัตรา ศุลกากร
คำว่า “ผู้มีสิทธิได้รับชดเชยค่า ภาษีอากร” หมายความว่า
(1) ผู้ทำการส่งออกตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร หรือการขายสินค้าภายในประเทศให้แก่ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจตามโครงการเงิน กู้หรือเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศ และการขายสินค้าให้แก่องค์การระหว่างประเทศหรือหน่วยงานที่มีสิทธินำสินค้า เข้ามาในราชอาณาจักรโดยได้รับการยกเว้นอากรตามกฎหมายว่าด้วยพิกัดอัตรา ศุลกากร
(2) ผู้มีสิทธิได้รับเงินชดเชยจะต้องไม่ได้รับคืนหรือยกเว้นหรือลดหย่อนอากร

ขาเข้าที่ส่งออกที่ใช้สิทธิประโยชน์ ดังนี้.
(1) การคืนอากรขาเข้าตามาตรา 19 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร(ฉบับที่ 9) พ.ศ.2482
(2) การยกเว้นอากรขาเข้าเกี่ยวกับคลังสินค้าทัณฑ์บนประเภทโรงผลิตสินค้าตามพระ ราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469
(3) การยกเว้นอากรขาเข้าเกี่ยวกับเขตอุตสาหกรรมส่งออกตามพระราชบัญญัติการนิคม อุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2522
(4) การยกเว้นอากรหรือลดหย่อนขาเข้าตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520 ที่ไม่ใช่การยกเว้นหรือลดหย่อนอากรสำหรับเครื่องจักร
(5) การยกเว้นอากรขาเข้าเกี่ยวกับเขตปลอดอากรหมวด 10 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 18) พ.ศ.2543
(3) การส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศต้องปฏิบัติให้ถูกต้องครบถ้วนตามกฎหมาย ศุลกากรและได้รับชำระเงินค่าขายสินค้าจากต่างประเทศ ถ้าหากเป็นการส่งออกเพื่อวัตถุประสงค์อื่นที่ไม่ใช่ทางการค้าจะไม่ได้รับ สิทธิชดเชยค่าภาษีอากร

ขั้นตอนการขอชดเชยค่าภาษีอากร
2.1 ก่อนการส่งออก
ผู้ประสงค์จะใช้สิทธิขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากร ให้ทำการลงทะเบียนเป็นผู้ผ่านพิธีการศุลกากรทางอิเล็กทรอนิกส์แบบไร้เอกสาร (Paperless) โดยใช้แบบคำขอลงทะเบียนแนบท้ายหมายเลข 1-1 ของประกาศกรมศุลกากรที่ 20/2550 และลงทะเบียนเป็นผู้ประสงค์ยื่นคำขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากร ตามแบบคำร้องมอบอำนาจกระทำการแทนในการขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากรสำหรับ สินค้าส่งออก ณ ฝ่ายทะเบียนและสิทธิพิเศษ กลุ่มงานมาตรฐานพิธีการและราคาศุลกากร หรือฝ่ายบริหารทั่วไปสำนัก/สำนักงานศุลกากร หรือด่านศุลกากร
2.2 ผ่านพิธีการส่งออกสินค้าระบบ e-Export
ให้ผู้ส่งของออกที่ใช้สิทธิ์ขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากรสินค้าส่งออก จัดทำข้อมูลใบขนสินค้าขาออกตามมาตรฐานที่ศุลกากรกำหนดแล้วส่งข้อมูลทาง อิเล็กทรอนิกส์เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ของศุลกากร
2.2.1 ในส่วนรายละเอียดของใบขนสินค้าขาออกแต่ละรายการ (Export Declaration Detail) ในช่องการใช้สิทธิ์ชดเชยอากร (Compensation) ต้องมีค่าเท่ากับ Y เท่านั้น
2.2.2 ในส่วนรายละเอียดของใบขนสินค้าขาออกแต่ละรายการ (Export Declaration Detail) ในช่องการใช้สิทธิ์พิเศษ ( Privilege Code ) ให้ระบุค่าเป็น “ 003 ”
2.2.3 ในส่วนรายละเอียดของใบขนสินค้าขาออกแต่ละรายการ (Export Declaration Detail) ในช่องอัตราอากรขาออก ( Export Tariff ) ให้ระบุค่าเป็น “ 9 PART 3 ”
2.2.4 ในส่วนรายละเอียดของใบขนสินค้าขาออกแต่ละรายการ (Export Declaration Detail) ในช่องพิกัดศุลกากร ( Tariff Code ) ให้บันทึกพิกัดศุลกากรให้ตรงกับชนิดของของที่ส่งออก

2.3. การยื่นขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากร
การยื่นคำขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากรสินค้าส่งออกที่ผลิตในราชอาณาจักร จะต้องยื่นคำขอฯภายใน 1 ปีนับตั้งแต่วันที่รับบรรทุกส่งสินค้าออกนอกราชอาณาจักรเรียบร้อยแล้ว และกรณีเป็นผู้ขอรับเงินชดเชยรายใหม่ให้ยื่นหนังสือรับรองกระทรวงพาณิชย์และ ใบประกอบโรงงานที่งานเอกสารและข้อมูล ฝ่ายชดเชยอากร ก่อนยื่นคำขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากร
โดยยื่นคำขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากรพร้อมเอกสารประกอบได้ที่ฝ่ายชดเชยอากร ส่วนคืนและชดเชยอากร สำนักสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร โดยปฏิบัติดังนี้
(1) ยื่นคำขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากรสำหรับสินค้าส่งออกที่ผลิตในราชอาณาจักร ตามแบบ กศก. 20/1 พร้อมทั้งลงนามและประทับตราบริษัท ห้าง ร้าน (ถ้ามี) โดยผู้มีอำนาจยื่นคำขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากร และแนบเอกสารประกอบดังนี้
(1.1) ใบรายละเอียดของสินค้าส่งออกขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากรแนบคำขอรับเงินชดเชย ค่าภาษีอากรตามแบบ กศก. 20/1 ก โดยแสดงรายการรายละเอียดสินค้าจำนวน 10 ใบขนสินค้าแต่ไม่เกิน 100 รายการต่อชุดคำขอชดเชยค่าภาษีอากร (กรณีใบขนสินค้าฉบับใดมีมากกว่า 100 รายการ ให้คำขอรับเงินชดเชยอากรเป็นหนึ่งชุดคำขอ)
(1.2) กรณีที่มีการโอนสิทธิตามบัตรภาษี จะต้องแสดงความประสงค์ในแบบ กศก. 20/1 และมีหนังสือขอรับโอนสิทธิตามบัตรภาษีแบบ กศก. 22/1 โดยลงนามผู้โอนซึ่งเป็นผู้มีสิทธิได้รับเงินชดเชยอากรและชื่อผู้รับโอนที่ รับรองถูกต้องโดยผู้มีอำนาจพร้อมประทับตราบริษัท ห้าง ร้าน (ถ้ามี) กำกับไว้
(1.3) หลักฐานแสดงการรับชำระเงินค่าขายสินค้าส่งออก (CREDIT NOTE / CREDIT ADVICE) หรือหลักฐานการโอนเงินอื่นๆ ที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์หรือสถาบันการเงินที่ได้ รับรองจากธนาคารแห่งประเทศไทยให้ทำหน้าที่เหมือนธนาคารพาณิชย์ และเป็นสถาบันการเงินที่ได้รับชำระเงินค่าสินค้าโดยตรงจากต่างประเทศ ทั้งนี้เอกสารดังกล่าวจะต้องมีข้อความระบุเงื่อนไขและวิธีการชำระเงิน ชื่อผู้รับเงิน (ผู้ส่งออก) เลขที่บัญชีราคา แหล่งที่มาของเงิน จำนวนเงินตราต่างประเทศหรือเงินตราสกุลเงินบาท และหากจำนวนเงินในใบแจ้งเข้าบัญชีชำระค่าสินค้าตามบัญชีราคาสินค้าหลายฉบับ ให้ระบุจำนวนเงินที่ชำระแต่ละบัญชีราคาสินค้าให้ชัดเจนโดยให้ผู้มีอำนาจ ลงลายมือชื่อ ชื่อ-สกุล ตำแหน่ง พร้อมประทับตรา และให้ผู้ส่งออกยื่นเอกสารเพิ่มเติมในแต่ละกรณี ดังนี้
ก. กรณีที่มีการรับชำระเงินค่าขายสินค้าที่ส่งออกเป็นเช็ค / ดราฟท์ของสถาบันการเงินต่างประเทศ ให้แนบสำเนาภาพถ่าย เช็ค / ดราฟท์ ที่ธนาคารพาณิชย์ที่ทำการแลกเปลี่ยนเงินตรารับรอง
ข. กรณีที่มีการชำระเงินค่าขายสินค้าที่ส่งออกเป็นเช็คเดินทางให้แนบสำเนาภาพ ถ่ายเช็คเดินทางที่ธนาคารพาณิชย์รับรอง และภาพถ่ายหนังสือเดินทางเข้าประเทศไทยของผู้ซื้อ
ค. กรณีที่มีการรับชำระเงินค่าขายสินค้าส่งออกด้วยเครดิตการ์ด ให้แนบสำเนาภาพถ่ายหนังสือเดินทางเข้าประเทศไทย หรือสำเนาภาพถ่ายหลักฐานการผ่านแดนเข้ามาในประเทศของผู้ถือบัตรเครดิตการ์ด เข้ามา
ง. กรณีที่มีการชำระเงินค่าขายสินค้าที่ส่งออกเป็นเงินสดด้วยเงินสกุลเงินต่าง ประเทศ หรือสกุลบาท ให้แนบหลักฐานการนำเงินเข้าประเทศ (FOREIGN CURRENCY DECLARATION FORM) ตามแบบที่กรมศุลกากรกำหนด โดยเจ้าหน้าที่ศุลกากร ณ ด่านศุลกากรเป็นผู้รับรอง และภาพถ่ายหนังสือเดินทางเข้าประเทศหรือภาพถ่ายหลักฐานการผ่านแดนเข้ามาใน ประเทศของผู้เดินทาง พร้อมเอกสารนำเงินฝากเข้าบัญชีธนาคาร ระบุเลขที่บัญชี สินค้า
(1.4) กรณีการขอชดเชยค่าภาษีอากรสำหรับสินค้าที่ส่งออกทางอากาศยาน ให้ผู้ส่งของออกแนบสำเนาใบตราส่งสินค้าทางอากาศยาน (AIR WAYBILL) โดยผู้ส่งของออกและตัวแทนบริษัทสายการบินลงลายมือชื่อ และประทับตรารับรอง กรณีไม่สำแดงค่าขนส่งใน AIR WAYBILL ให้แนบเอกสารการชำระค่าขนส่งของเพิ่มเติม
(1.5) กรณีผู้ขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากรไม่ได้เป็นผู้ผลิตสินค้าที่ส่งออกและ ประสงค์จะโอนสิทธิตามบัตรภาษีให้บุคคลอื่น และสินค้าที่ขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากรมีอัตราเงินชดเชยค่าภาษีอากร ตั้งแต่ร้อยละ 1.5 ขึ้นไปของราคาส่งออก ให้ยื่นใบกำกับภาษีหรือหลักฐานการซื้อขายอย่างอื่นที่ระบุผู้ซื้อและผู้ขาย พร้อมสถานประกอบการของผู้ขาย
ใบกำกับภาษีที่ยืนประกอบชุดคำขอรับเงินชดเชย มีรายการดังต่อไปนี้
ก. คำว่า “ใบกำกับภาษี” ในที่ที่เห็นได้เด่นชัด
ข. ชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ประกอบการจด
ทะเบียนที่ออกใบกำกับภาษี
ค. หมายเลขลำดับของใบกำกับภาษีและหมายเลขลำดับของเล่ม (ถ้ามี)
พร้อมวัน เดือน ปี ที่ออกใบกำกับภาษี
ง. ชื่อ ที่อยู่ ของผู้ซื้อสินค้า
จ. ชื่อ ชนิด ประเภท ปริมาณและมูลค่าของสินค้า
ฉ. จำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่คำนวณจากมูลค่าของสินค้าโดยให้แยกออก จากมูลค่าสินค้าให้ชัดแจ้ง
(1.6) เอกสารหลักฐานอื่นๆ เพื่อประกอบการพิจารณาตามความจำเป็น
(2) ยื่นคำขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากรกรณีขายสินค้าภายในประเทศซึ่งเข้าข่ายได้ รับเงินชดเชยค่าภาษีอากร แบบ (กศก. 21/1) พร้อมทั้งลงนามและประทับตราบริษัท ห้าง ร้าน (ถ้ามี) โดยผู้มีอำนาจยื่นคำขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากร และแนบเอกสารประกอบดังนี้
(2.1) ใบแนบคำขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากรตามแบบ กศก. 21/1 ก พร้อม ลงลายมือชื่อ สกุล
(2.2) สำเนาสัญญาซื้อขาย (เฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับสินค้าที่ขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากร) ถ้าสัญญาซื้อขายเป็นภาษาต่างประเทศให้แปลเป็นภาษาไทย และมีการรับรองโดยผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อ ชื่อ - สกุล ตำแหน่งพร้อมประทับตราบริษัท ห้าง ร้านไว้ด้วย
(2.3) สำเนาหนังสือรับรองสัญญาซื้อขายจากส่วนราชการ หรือรัฐวิสาหกิจว่าเป็นการซื้อขายสินค้าตามโครงการเงินกู้หรือเงินช่วยเหลือ จากต่างประเทศ โดยเป็นการซื้อขายที่ผู้ขายได้รับการคัดเลือกในการประกวดราคานานาชาติหรือ การสอบราคานานาชาติ
(2.4) หนังสือรับรองการตรวจสอบสินค้า หรือสำเนาหนังสือตรวจรับสินค้าของคณะกรรมการตรวจรับคุณภาพและปริมาณสินค้า จากส่วนราชการ หรือรัฐวิสาหกิจ
(2.5) สำเนาใบส่งสินค้าหรือสำเนาใบกำกับสินค้าซึ่งออกโดยผู้ยื่นคำขอต้องลงลายมือ ชื่อรับรองพร้อมประทับตราบริษัท ห้าง ร้าน
(2.6) เป็นคำขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากรที่ยื่นภายใน 1 ปี นับแต่วันที่คณะกรรมการตรวจรับคุณภาพและปริมาณตรวจรับสินค้า หรือภายใน 1 ปี นับแต่วันที่คณะกรรมการตรวจรับแต่ละงวด
ให้นำสำเนาเอกสารพร้อมต้นฉบับ ตามข้อ (2.1) – (2.4) มายื่นโดยเฉพาะหนังสือของส่วนราชการ หรือรัฐวิสาหกิจ ต้องลงลายมือชื่อ – สกุล ตำแหน่ง โดยหัวหน้าส่วนราชการ หรือรัฐวิสาหกิจหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วคืนต้นฉบับไป
(3) ในการยื่นเอกสารเพื่อขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากร ตามข้อ (1) – (2) หากเอกสารครบถ้วนถูกต้อง เจ้าหน้าที่จะออกใบรับคำขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากรตามแบบ กศก. 123 แนบท้ายประกาศฯ โดยออกเลขที่ พร้อม วัน เดือน ปี ที่รับคำขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากร แล้วมอบให้ผู้ยื่นคำขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากร ถ้าเอกสารขอรับเงินชดเชยอากรไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วนเจ้าหน้าที่จะส่งคืนคำ ขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากรฉบับนั้น เพื่อนำไปแก้ไขให้ถูกต้องครบถ้วนก่อนที่จะรับคำขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากร
(4) กรณีที่มีเหตุจำเป็นซึ่งผู้ขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากรไม่สามารถดำเนินการได้ ตามข้อ (1) – (2) ให้ผู้ยื่นคำขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากร ยื่นคำร้องขอผ่อนผันให้รับคำขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากรฉบับนั้นไว้ก่อนตาม แบบ กศก. 159 โดยให้แสดงเหตุผลความจำเป็นของการผ่อนผันนั้นด้วย
(5) การขอผ่อนผันจะพิจารณาอนุญาตขอผ่อนผันได้ไม่เกินสามครั้งๆ ละไม่เกิน 2 เดือนนับแต่วันที่รับคำร้อง การขอผ่อนผันในครั้งต่อไปให้ยื่นคำร้องขอผ่อนผันก่อนครบกำหนดระยะเวลาที่ได้ รับอนุญาตให้ผ่อนผันในแต่ละครั้ง เมื่อได้รับอนุญาตให้ผ่อนผันแล้ว เจ้าหน้าที่จะรับคำขอรับเงินชดเชยฉบับนั้นไว้ โดยออกเลขที่พร้อมวัน เดือน ปี ที่รับคำขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากร แต่จะไม่มอบใบรับคำขอ รับเงินชดเชยค่าภาษีอากร (แบบ กศก. 123) ให้จนกว่าจะได้ปฏิบัติครบถ้วนตามเงื่อนไขที่ขอผ่อนผันไว้
กรณีผู้ยื่นคำขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากรที่ขอผ่อนผันดังกล่าวไม่ปฏิบัติตาม เงื่อนไขขอผ่อนผันไว้หรือไม่สามารถดำเนินการได้ทันภายในกำหนดเวลา ให้ถือว่าผู้ขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากรไม่ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติงานของ พนักงานเจ้าหน้าที่ ตามนัยมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติชดเชยค่าภาษีอากรสินค้าส่งออกที่ผลิตในราชอาณาจักร พ.ศ. 2524 และกรมศุลกากรจะยกคำขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากรนั้นทั้งหมดหรือบางส่วนตามที่ เห็นสมควร

บัตรภาษี
3.1 การโอนสิทธิบัตรภาษี
(1) ก่อนพิมพ์บัตรภาษี
ให้ผู้มีสิทธิได้รับเงินชดเชยค่าภาษีอากรซึ่งประสงค์จะโอนสิทธิตามบัตรภาษี ไปให้แก่บุคคลอื่นแสดงความจำนงในแบบคำขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากร โดยระบุชื่อผู้รับโอนลงในช่องว่างของบรรทัดที่มีข้อความ “ประสงค์จะโอนบัตรภาษีให้..................................” หากไม่ประสงค์จะโอนก็ให้ระบุข้อความว่า “ไม่โอน” ยื่นต่อฝ่ายชดเชยอากร ส่วนคืนและชดเชยอากร สำนักสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร หรือยื่นคำร้องเปลี่ยนแปลงการโอนบัตรภาษีภายใน 15 วัน นับแต่วันยื่นชุดคำขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากร
(2) ผู้มีสิทธิได้รับเงินชดเชยค่าภาษีอากรที่ประสงค์จะโอนสิทธิดังกล่าวต้องยื่น หนังสือแสดงความจำนงขอรับโอนบัตรภาษีของผู้รับโอน ตามแบบ กศก. 22/1
(3) หนังสือแจ้งความจำนงขอรับโอนสิทธิตามบัตรภาษีให้ยื่นมาพร้อมกับชุดคำขอรับ เงินชดเชยค่าภาษีอากรแต่ละชุด ให้ระบุจำนวนเงินตรงกับยอดรวมเงินชดเชยที่ขอมาในชุดนั้นๆ พร้อมลงนามและประทับตราบริษัท ร้าน (ถ้ามี) ของผู้รับโอนและผู้โอนร่วมกัน
(2) กรณีพิมพ์บัตรภาษีแล้ว
(1) การโอนให้ทายาทผู้รับโอนกิจการของผู้มีชื่อในบัตรภาษีซึ่งถึงแก่ความตาย
(2) การโอนให้ผู้ซึ่งรับโอนกิจการของผู้มีชื่อในบัตรภาษีมาดำเนินการต่อไป
(3) การโอนให้แก่บริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลใหม่ อันเกิดจากการควบเข้ากันระหว่างนิติบุคคลผู้มีชื่อในบัตรภาษีและนิติบุคคล อื่น
(4) การโอนให้แก่บุคคลอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจการของผู้มีชื่อในบัตรภาษี
การโอนตามข้อ (1) ให้ผู้รับโอนยื่นคำร้องตามแบบ กศก. 22/1 ต่อฝ่ายชดเชยอากร ส่วนคืนและชดเชยอากร สำนักสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร พร้อมทั้งแนบบัตรภาษีของผู้มีชื่อในบัตรภาษีซึ่งถึงแก่ความตายมาขอเปลี่ยน ใหม่ภายในอายุบัตรที่กำหนดไว้ในบัตรภาษีเดิมหรือภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่ ผู้มีชื่อในบัตรภาษีเดิมหรือภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่ผู้มีชื่อในบัตรภาษี ถึงแก่ความตายแล้วแต่วันใดจะเป็นวันหลัง
การโอนตามข้อ (2) – (3) ผู้รับโอนต้องแนบบัตรภาษีของผู้โอนมาขอเปลี่ยนบัตรภาษีใหม่ภายในอายุบัตรที่ กำหนดไว้ในบัตรภาษีเดิมพร้อมกับคำร้อง เว้นแต่ในกรณีที่อธิบดีเห็นสมควรผ่อนผันให้นำบัตรภาษีขอเปลี่ยนใหม่ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่บัตรภาษีหมดอายุก็ได้ บัตรภาษีที่ออกให้ใหม่มีอายุการใช้เท่ากับบัตรภาษีเดิม
3.2 การรับบัตรภาษี
เมื่อผู้มีสิทธิได้รับเงินชดเชยค่าภาษีอากร มาขอรับบัตรภาษีของคำขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากรสำหรับสินค้าส่งออก ที่ดำเนินการออกบัตรภาษีเรียบร้อยแล้ว ผู้มีสิทธิขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากรต้องแสดงหลักฐานต่างๆ ดังนี้
1. ยื่นใบรับคำขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากร (กศก123) ต่อเจ้าหน้าที่ที่จ่ายบัตรภาษี
2. แสดงบัตรประจำตัวประชาชนหรือหนังสือเดินทางของผู้รับบัตรภาษี
3. เจ้าหน้าที่ผู้จ่ายบัตรภาษีจะตรวจสอบว่าบุคคลผู้ขอรับบัตรภาษีนั้น เป็นผู้รับมอบอำนาจกระทำการแทนในการขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากรสำหรับสินค้า ส่งออกจากผู้ประสงค์ยื่นคำขอรับเงินชดเชยค่าภาษี ตามรายชื่อในทะเบียน เป็นผู้กระทำติดต่อราชการกับกรมศุลกากร ตามที่ระบุไว้ในฐานข้อมูลระบบทะเบียนของกรมศุลกากร และบัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทาง เป็นของผู้มารับบัตรภาษีจริง
4. ให้ผู้รับบัตรภาษี ลงนามรับบัตรภาษีในในแบบรายงานการจ่ายบัตรภาษี (รายงานที่ 4)
และใบรับคำขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากร (กศก 123)
3.3 การต่ออายุบัตรภาษี
บัตรภาษีมีอายุการใช้ 3 ปี นับแต่วันที่ออก หากผู้มีสิทธิรับเงินชดเชยค่าภาษีอากรไม่ได้ใช้บัตรภาษีนั้นภายในกำหนดเวลา ดังกล่าว และมีความประสงค์จะให้กรมศุลกากรต่ออายุบัตรภาษี ให้ปฏิบัติดังนี้
(1) ยื่นคำร้องขอต่ออายุบัตรภาษีตามแบบ กศก. 24 ที่ฝ่ายชดเชยอากร ส่วนคืนและชดเชยอากร สำนักสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร
(2) นำบัตรภาษีที่จะหมดอายุภายใน 7 วัน แนบท้ายคำร้อง
(3) บัตรภาษีที่ต่ออายุแล้ว มีอายุการใช้ได้คราวละ 3 ปี และจะขอต่ออายุบัตรภาษีได้อีก 1 คราว

3.4 การเปลี่ยนบัตรภาษี
การขอเปลี่ยนบัตรภาษีจากชนิดราคาสูงเป็นชนิดราคาต่ำ จะทำการเปลี่ยนได้เมื่อผู้รับบัตรภาษีได้เก็บบัตรภาษีไว้เป็นเวลาไม่น้อย กว่า 1 ปี นับแต่วันรับบัตร และไม่สามารถนำบัตรภาษีนั้นไปใช้ประโยชน์ได้จริง สามารถเปลี่ยนบัตรภาษีจากชนิดราคาสูงเป็นชนิดราคาต่ำได้ไม่เกินชนิดละ 50 ฉบับ ในกรณีบัตรภาษีจะหมดอายุ และผู้มีชื่อในบัตรภาษีมีความประสงค์จะขอเปลี่ยนบัตรภาษีจากชนิดราคาสูงเป็น ราคาต่ำ ให้ยื่นความจำนงขอเปลี่ยนบัตรภาษีก่อน แล้วจึงขอต่ออายุบัตรภาษีภายหลัง แต่ต้องยื่นก่อนบัตรภาษีจะหมดอายุอย่างน้อย 7 วัน
3.5 การขอรับบัตรภาษีใหม่แทนบัตรภาษีเดิมที่ชำรุดหรือสูญหาย
ผู้มีความประสงค์จะให้กรมศุลกากรออกบัตรภาษีใหม่แทนบัตรภาษีเดิมที่ชำรุด หรือสูญหาย ให้ปฏิบัติดังนี้
(1) ยื่นคำร้องขอให้ออกบัตรภาษีใหม่ตามแบบ กศก. 25 ที่ฝ่ายชดเชยอากร ส่วนคืนและชดเชยอากร สำนักสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร
(2) แนบบัตรภาษีเดิมที่ชำรุด หรือหนังสือรับแจ้งความของสถานีตำรวจท้องที่ที่บัตรสูญหายและรายละเอียด เกี่ยวกับบัตรภาษีดังกล่าว เช่น เลขที่บัตรภาษี มูลค่าของบัตรภาษี อายุของบัตรภาษี จำนวนของบัตรภาษีหรือหลักฐานอื่นที่เกี่ยวกับบัตรภาษี (ถ้ามี)
(3) สำหรับกรณีบัตรภาษีสูญหาย เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว ถ้าไม่ปรากฏว่าได้มีการนำบัตรภาษีที่สูญหายไปใช้ชำระภาษีอากร กรมศุลกากรจะออกประกาศยกเลิกบัตรภาษีที่สูญหายให้ทราบทั่วกัน เมื่อครบกำหนด 30 วัน นับแต่วันออกประกาศ หากไม่มีผู้ใดคัดค้านหรือโต้แย้งเกี่ยวกับสิทธิของบัตรภาษีของบัตรภาษีที่ สูญหายแล้ว ก็จะดำเนินการออกบัตรภาษีให้ใหม่แทนบัตรภาษีเดิมที่สูญหายต่อไป
(4) ถ้าปรากฏว่าได้มีการนำบัตรภาษีที่ขอยกเลิกไปใช้ชำระภาษีอากร กรมศุลกากรจะพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายทั้งทางแพ่งและอาญา
(5) บัตรภาษีที่ออกให้ใหม่นี้ มีอายุการใช้และอาจขอต่ออายุได้เพียงเท่าระยะเวลาที่เหลืออยู่ตามบัตรภาษี เดิม
3.6 สินค้าส่งออกที่ถูกส่งกลับคืน หรือการส่งสินค้าคืน
กรณีที่สินค้าส่งออกถูกส่งกลับคืนมา หรือกรณีการขายสินค้าในประเทศซึ่งอยู่ในข่ายได้รับการชดเชยค่าภาษีอากรเช่น เดียวกับการส่งสินค้าออกซึ่งยกเลิกการซื้อขายและต้องคืนค่าสินค้าให้แก่ ผู้ซื้อแล้วแต่กรณี ผู้ที่ได้ใช้สิทธิขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากรไปแล้ว ต้องคืนเงินชดเชยค่าภาษีอากรเป็นจำนวนตามส่วนของสินค้าที่มีการส่งกลับหรือ ส่งสินค้าคืนนั้นให้กรมศุลกากร ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่นำสินค้าเข้ามาหรือนับตั้งแต่วันที่ได้รับสินค้าคืนดังกล่าว
ถ้าผู้มีสิทธิได้รับเงินชดเชยค่าภาษีอากร มิได้คืนเงินชดเชยค่าภาษีอากรภายในระยะเวลาที่กำหนดจะต้องชำระเงินเพิ่มใน อัตราร้อยละสองต่อเดือนของเงินชดเชยค่าภาษีอากรที่ต้องคืน เศษของเดือนให้นับเป็นหนึ่งเดือนไปจนกว่าจะคืนเงินชดเชยค่าภาษีอากรครบถ้วน
การคืนเงินชดเชยค่าภาษีอากร รวมตลอดถึงกรณีจะต้องชำระเงินเพิ่ม จะชำระด้วยเงินสดก็ได้ หรือถ้าใช้บัตรภาษีชำระแทนต้องปฏิบัติตามระเบียบที่กำหนดไว้ด้วย